และแล้วสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกก็ดันกลับมาอีกครั้งแบบที่เลี่ยงไม่ได้ เมื่อเจ้าเชื้อโควิดกลับมาระบาดอีกเป็นระลอกใหม่ อีกทั้งยังดูเริ่มแพร่ออกไปเกินกว่าจะเอาอยู่แล้ว บรรดาธุรกิจต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตระบาดหรือใกล้เคียงต่างก็ต้องรับชะตากรรมโดนล็อคดาวน์กันไป หรือต่อให้ไม่โดนก็เชื่อว่าทางลูกค้าส่วนมากเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปใช้บริการที่ร้านกันแน่ๆ
ซึ่งตอนนี้หากผู้ประกอบการได้มานั่งพิจารณาธุรกิจตัวเองอีกครั้ง จากช่วงโควิดเมื่อต้นปี ถ้าธุรกิจของเรายังคงโดนผลกระทบด้วยสภาพเดิมๆ แล้ว แสดงว่าเราเองยังไม่ได้มีเตรียมพร้อมรับมือที่ดีพอ ส่วนนึงควรต้องพิจารณาแล้วว่าถึงเวลาที่ธุรกิจของเราจะต้องปรับตัวครั้งใหญ่แล้วหรือยัง เพราะเท่านี้ก็แทบจะเป็นสัญญาณที่ชัดแล้วว่า หากเป็นแบบนี้ต่อไปแล้วยังไม่แก้ไขอะไร รู้ตัวอีกทีก็อาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้
แนวทางการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่คงหนีไม่พ้นการพาธุรกิจตัวเองจาก Offline ขยับขึ้นสู่ความเป็น Online ได้แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องปิด Offline ไปเลย เพียงแต่เป็นการทำเสริมเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ เพื่อให้รอดภ้นจากสภาวะวิกฤตในครั้งนี้ อีกทั้งต่อให้ไม่มีโควิดเข้ามาเกี่ยวข้อง ในยุคปัจจุบันนั้นก็ได้เวลาอันสมควรแล้วที่พาธุรกิจตัวเองให้ตามโลก Digital ให้ทัน ซึ่งวันนี้เราก็มีประเด็นสำคัญที่ชวนฉุกคิดและจูงใจให้ผู้อ่านพาธุรกิจตัวเองเข้าสู่ Online ก่อนที่จะไม่เหลือโอกาสครั้งหน้าให้เปลี่ยนอีกต่อไป